Futures

Bitget: วิธีการเปิดและปิด Position ในโหมด Hedge

2024-11-04 07:15015

ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้โหมด Hedge ช่วยให้นักลงทุนสามารถถือ Long และ Short Position ได้พร้อมกัน การเทรด Futures ของ Bitget จะใช้โหมด Hedge เป็นค่าเริ่มต้น แต่ผู้ลงทุนสามารถสลับระหว่างโหมด Hedge และโหมด One-Way ได้ตลอดเวลา ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถซื้อ (คาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น) และขาย (คาดการณ์ว่าราคาจะลดลง) ในคู่เทรดเดียวกันได้

การเลือกโหมด Position เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Futures ในตลาดที่มีความผันผวนหรือไม่แน่นอน การถือ Position ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมักจะมีความเสี่ยงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม โหมด Hedge เสนอโอกาสในการบรรเทาความเสี่ยง ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ไม่ว่าทิศทางของตลาดจะเป็นอย่างไร

1. วิธีตั้งค่าโหมด Hedge

1.1 บนแอป

เปิดแอป Bitget แตะที่ “Futures” ในแถบเมนูหลัก จากนั้นแตะไอคอนสามจุด (...) ที่มุมขวาบน แตะที่ “การตั้งค่า Futures / Futures setting และเลือก “โหมด Position / Position mode” จากเมนูป็อปอัป การเทรด Futures ของ Bitgetตั้งค่าเริ่มต้นเป็นโหมด Hedge หากคุณต้องการเปลี่ยนเป็นโหมด One-Way คุณสามารถเลือกได้ที่นี่

Bitget: วิธีการเปิดและปิด Position ในโหมด Hedge image 0

Bitget: วิธีการเปิดและปิด Position ในโหมด Hedge image 1

1.2 บนเว็บ

บนหน้าแรกของการเทรด Futures สของ Bitgetคลิกที่ “การตั้งค่า / Preferences” ที่มุมขวาบน จากนั้นคลิกที่ “โหมด Position / Position Mode” ในเมนูป็อปอัป และเลือก “โหมด Hedge / Hedging Mode”

Bitget: วิธีการเปิดและปิด Position ในโหมด Hedge image 2

2. วิธีการเปิด Position ในโหมด Hedge

แม้ว่าโหมด Hedge จะช่วยให้นักลงทุนได้รับผลกำไรในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจทางการตลาดที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การขาดทุนในทั้งสอง Position ได้ นอกจากนี้การถือทั้ง Long และ Short Position นั้นต้องใช้เงินทุนและค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงกว่า สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาโหมด Hedge ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการเปิด Position อย่างมีประสิทธิภาพ:

2.1 วิเคราะห์แนวโน้มตลาด

ก่อนที่จะเปิด Position ผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจที่มั่นคงเกี่ยวกับสภาวะตลาดปัจจุบัน Bitget แนะนำให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Trend Line, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และอินดิเคเตอร์เพื่อวัดเทรนด์ตลาด

2.2 เลือกคู่เทรด

เลือกคู่เทรดที่เหมาะสมบนหน้าการเทรด Futures ของ Bitget ตามการวิเคราะห์และกลยุทธ์ของคุณ คริปโทเคอร์เรนซีที่มีสภาพคล่องและความผันผวนสูง เช่น Bitcoin และ Ethereum เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโหมด Hedge

2.3. กำหนดทิศทางและขนาดของ Position

ในโหมด Hedge นักลงทุนสามารถเปิดทั้ง Long และ Short Position ได้ กำหนดทิศทางและขนาด Position ตามกลยุทธ์และแนวโน้มตลาดของคุณ

เปิด Long หากคุณคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น และเปิด Short หากคุณคาดหวังว่าราคาจะลดลง ขนาด Position ควรสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และแผนการจัดการเงินทุนของคุณ

โหมด Margin: Cross Margin และ Isolated Margin แต่ละสัญญา Futures สามารถใช้โหม Margin ได้เพียงโหมดเดียวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก Isolated Margin สำหรับ BTCUSDT คุณสามารถเปิด Long และ Short Position โดยใช้ Isolated Margin ได้ หมายเหตุ: คุณไม่สามารถเปลี่ยนโหมด Margin ได้หากคุณมี Position หรือ Order ใดๆ เปิดอยู่

2.4. กำหนดระดับราคา TP/SL

เมื่อเปิด Position ให้กำหนดระดับราคา Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL) เมื่อถึงระดับ SL ระบบจะปิด Position โดยอัตโนมัติเพื่อจำกัดการขาดทุน เมื่อถึงระดับ TP ระบบจะปิด Position โดยอัตโนมัติเพื่อรักษากำไร TP/SL มีความสำคัญอย่างยิ่งในโหมด Hedge โดยป้องกันการขาดทุนที่ไม่จำเป็นระหว่างสภาวะตลาดที่รุนแรง

ระดับราคา TP และ SL ควรกำหนดขึ้นตามความผันผวนของตลาด คู่เทรด และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของคุณเอง โดยทั่วไประดับ SL ควรตั้งไว้ต่ำกว่าราคาเข้า ในขณะที่ระดับ TP ควรตั้งไว้สูงกว่านั้น โดยแต่ละระดับมีเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ

3. วิธีการปิด Position ในโหมด Hedge

3.1 การปิดด้วยตนเอง

เมื่อราคาตลาดถึงราคา TP หรือ SL ที่คุณกำหนด คุณสามารถปิด Position ด้วยตนเองได้ การปิดด้วยตนเองนั้นต้องอาศัยการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและการตัดสินใจอย่างทันท่วงที

เมื่อปิดด้วยตนเอง คุณสามารถเลือกปิด Long หรือ Short Position ก่อน หรือปิดทั้งสอง Position พร้อมกันก็ได้

3.2 ปิดโดยอัตโนมัติ

Bitget มีฟังก์ชันปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อตลาดเข้าถึงระดับ TP หรือ SL ของคุณ ระบบจะปิด Position โดยอัตโนมัติ ช่วยให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสในการปิดเนื่องจากความผิดพลาดส่วนบุคคลหรือปัจจัยทางด้านอารมณ์

เมื่อใช้การปิดโดยอัตโนมัติ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับราคา TP/SL ของคุณเหมาะสม อีกทั้งมีการตรวจสอบและปรับเปลี่ยนเป็นประจำ

3.3 ปิดบางส่วน

ในโหมด Hedge นักลงทุนสามารถปิด Position บางส่วนได้ ทำให้คุณสามารถปิด Position บางส่วนได้ ขณะที่ Position ที่เหลือยังคงใช้งานอยู่

การปิดบางส่วนช่วยให้คุณสามารถล็อกกำไรบางส่วนได้ในขณะที่ยังคงรักษา Position เพื่อใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของตลาด อัตราส่วนสำหรับการปิดบางส่วนควรขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและกลยุทธ์ของคุณ

4. ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

4.1 การควบคุมความเสี่ยง

โหมด Hedge ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและตัวเลือกเชิงกลยุทธ์ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการเทรดด้วยเช่นกัน นักลงทุนควรใช้การควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวด ตั้งระดับ TP และ SL อย่างชาญฉลาด และหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไปหรือติดตามแนวโน้มอย่างไม่ลืมหูลืมตา

4.2 การจัดการสินทรัพย์

การบริหารจัดการเงินทุนที่มีประสิทธิผลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จ นักลงทุนควรจัดสรรสินทรัพย์อย่างชาญฉลาดและหลีกเลี่ยงการจดจ่ออยู่ที่ Position ใด Position หนึ่งมากเกินไป นอกจากนี้ ขนาด Position ควรได้รับการปรับขนาดตามสภาวะตลาดและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนและความผันผวนของคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว การลงทุนในอนุพันธ์ที่มีเลเวอเรจสูง เช่น Perpetual Futures อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนที่ลงทุนไปทั้งหมดได้ภายในไม่กี่นาที ดังนั้นผู้ลงทุนควรยึดตามข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น หลักการทั่วไปในการเทรดสินทรัพย์ที่มีความผันผวนคือการเสี่ยงเพียง 5-10% ของเงินทุนในการเทรดแต่ละครั้ง

ตัวอย่างเช่น หากคุณมี 10,000 USDT ในบัญชี Futures ของคุณบน Bitget และคุณเสี่ยง 500– 1,000 USDT ในการเทรดแต่ละครั้ง การเทรดที่ขาดทุนจะส่งผลให้สูญเสียเพียง 5% ถึง 10% ของยอดคงเหลือในบัญชีของคุณเท่านั้น การจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพหมายถึงการมีขนาด Position ที่เหมาะสม รู้วิธีการตั้งค่าและปรับ Stop Loss รวมถึงพิจารณา Risk/Return Ratio ด้วย แผนการจัดการสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้คุณสร้างพอร์ตที่จะไม่ทำให้คุณต้องตื่นกลางดึกได้

โหมด Hedge ช่วยให้ผู้ลงทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและมีตัวเลือกเชิงกลยุทธ์ในการเทรดคริปโต การเรียนรู้วิธีเปิดและปิด Position ในโหมด Hedge ช่วยให้นักลงทุนคว้าโอกาสทางการตลาดได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จมากขึ้น